วันอาทิตย์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ข่าวไอที


        ร้านค้าปลีกสินค้า "ไอที" ดิ้นหนีตาย รวมกลุ่มยื่นข้อเสนอขอความช่วยเหลือ "คอมพิวเตอร์แบรนด์ดัง" ขยับ "มาร์จิ้น" โน้ตบุ๊ก คาดปลายไตรมาส 3 สินค้ารุ่นใหม่-ลอตใหม่ขึ้นราคา 5% "เลอโนโว" ยอมรับรายย่อยอยู่ยากแต่ช่วยได้ไม่เยอะ หวั่นกระทบกำลังซื้อ ผู้บริโภค ฟาก "เอเซอร์" ใช้วิธีเพิ่มรุ่นเพิ่มความหลากหลายสินค้าระดับกลาง-บน ดันร้านค้าปรับพอร์ตขายโน้ตบุ๊กราคา 2 หมื่นอัพมากขึ้น

         แหล่งข่าวจากวงการคอมพิวเตอร์เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เดือนที่ผ่านมา กลุ่มร้านค้าปลีกรายย่อยได้ขอความร่วมมือไปยังบริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ แบรนด์ดังเกือบทุกแบรนด์ขอให้ปรับโครงสร้างกำไรสินค้า โดยเฉพาะโน้ตบุ๊กให้สูงขึ้นเพื่อช่วยเหลือร้านค้ารายเล็กให้ค้าขายได้และอยู่รอดในธุรกิจไอที เพราะเดิมกำไรจากการขายสินค้าไอทีค่อนข้างสูง แต่ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ลดลงต่อเนื่องจนเหลือไม่กี่ร้อยบาท ในเบื้องต้นคาดว่าสินค้าลอตใหม่ที่จะเข้าสู่ตลาดปลายไตรมาส 3 จะมีราคาขายปลีกในทุกช่องทางสูงขึ้นประมาณ 5% เดิมตั้งราคา 19,900 บาท อาจขยับขึ้นเป็น 20,900 บาท เป็นต้น

     "ต้องประเมินอีกทีว่าผลกระทบกับยอดขายและคอนซูเมอร์มากน้อยขนาดไหน หากปรับราคาขึ้นแล้ว ผู้บริโภคซื้อน้อยลงก็ต้องกระทบร้านค้าอยู่ดี แต่ตอนนี้ร้านค้าขอความร่วมมือมาเราก็ช่วยเหลือ เพราะถ้าร้านค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้ มิเช่นนั้นจะกระทบกันหมด"
         ด้านนายจีรวุฒิ วงศ์พิมลพร กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า การขอความร่วมมือของกลุ่มผู้ค้ารายย่อยเกิดจากการขายสินค้าไอที โดยเฉพาะการจำหน่ายโน้ตบุ๊กในปัจจุบันมีกำไรน้อยมาก เฉลี่ย 300-500 บาท เนื่องจากสินค้ามีความแมสมากขึ้น ผู้ค้ารายใหญ่ที่สั่งซื้อจำนวนมากมีโอกาสอยู่รอดมากกว่า ขณะที่ร้านเล็กซึ่งมีกว่า 1,000 รายทั่วประเทศประสบปัญหาต้องขอความร่วมมือให้เจ้าของแบรนด์ช่วยเหลือ
         สำหรับเลอโนโวอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าสินค้ารุ่นใดสามารถปรับราคาได้บ้าง แต่คงขึ้นได้ไม่กี่ร้อยบาทส่วนใหญ่เป็นสินค้ารุ่นใหม่มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ตลาด ซึ่งปกติสินค้ารุ่นใหม่จะมีราคาแพงกว่ารุ่นที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน ดังนั้นผู้บริโภคจึงไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงมากนัก
       "ร้านค้ารายย่อยไม่ได้มีเงื่อนไขว่า แบรนด์ใดไม่ช่วยเหลือจะดำเนินการอย่างไร แต่เราก็ต้องให้ความช่วยเหลือ ถ้าเขาอยู่ไม่ได้ เราก็อยู่ไม่ได้ แต่หากขึ้นราคามากจนผิดปกติก็ไม่ได้ เพราะผู้บริโภคจะไม่ซื้อสินค้าอยู่ดี ทุกอย่างเป็นกลไกลทางการตลาด"
        นายบุญชัย เงาวิศิษฏ์กุล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ คอนซูเมอร์ บริษัท เอเซอร์ คอมพิวเตอร์ กล่าวว่า กลุ่มร้านค้ารายย่อยเข้ามาคุยกับเอเซอร์เช่นกัน เนื่องจากประสบปัญหาจากสภาพการแข่งขันตัดราคาทำให้ได้กำไรไม่คุ้มค่ากับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ทั้งกำไรสินค้าไอทียังลดลงตามแนวโน้มราคาสินค้าที่ลดลง เช่นปีที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยโน้ตบุ๊กอยู่ที่ 22,000 บาท มีกำไร 6-7% แต่ปีนี้ลดลงเหลือ 19,000 บาท
         สำหรับแนวทางของบริษัทคือ ผลักดันให้ร้านค้าขายสินค้าระดับกลางถึงบนมากขึ้น หรือโน้ตบุ๊กราคาตั้งแต่ 20,000 บาท เนื่องจากกำไรสูงกว่าจากเดิมร้านค้ารายย่อยเน้นขายโลว์เอนด์เป็นหลัก โดยในครึ่งปีหลังเอเซอร์จะเพิ่มรุ่นและความหลากหลายของสินค้าระดับกลางถึงบนมากขึ้นเพื่อช่วยเหลือดีลเลอร์ คาดว่า ในสิ้นปีจะมียอดขายสินค้าระดับกลางถึงบนคิดเป็นสัดส่วน 40% รุ่น โลว์เอนด์ 60% จากปัจจุบันสินค้าระดับกลางขึ้นไปมีสัดส่วนการขาย 30%
      "สิ่งที่เราฟีดแบ็กร้านค้าคือ ให้โฟกัสสินค้าระดับกลางมากขึ้น เพราะการเพิ่มมาร์จิ้นเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก สุดท้ายเป็นเรื่องของการแข่งขันในตลาดอยู่ดี เพราะตลาดเป็นตัวกำหนดโครงสร้างของราคาและการแข่งขัน"

ขณะที่นายนิธิพัทธ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายการตลาด บริษัทเดียวกันเสริมว่า การเพิ่มกำไรไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะธุรกิจไอทีมีการแข่งขันสูงมาก หากไม่มีการควบคุมราคาสินค้าทุกช่องทางจำหน่ายอย่างดี ปัญหาการ ตัดราคาจะยังมีเหมือนเดิม แม้จะขยับกำไรสูงขึ้น โดยปัจจุบันกำไรของโน้ตบุ๊ก รุ่นทั่วไปโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 7-10% รุ่นไฮเอนด์อยู่ที่ 15-20%
"ลูกค้าอาจได้รับผลกระทบจากราคาที่สูงขึ้น แต่อีกด้านถือเป็นการช่วยร้านค้ารายเล็กที่ไม่มีสายป่านยาว สุดท้ายขึ้นกับสภาพการแข่งขันอยู่ดี การช่วยเหลือตรงนี้ช่วยได้ระดับหนึ่งเท่านั้น"
       ปัจจุบันเอเซอร์มีดีลเลอร์หลัก ๆ ในต่างจังหวัดภูมิภาคละ 20-30 ราย มี นโยบายราคาเดียวเหมือนกันทั้งประเทศ รวมถึงมีการนำระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการสินค้ามาใช้กับร้านค้าดีลเลอร์ทั้งหมดทำให้ควบคุมราคาขายในทุก ช่องทางจำหน่ายได้

credit by>>http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1312617079&grpid=&catid=06&subcatid=0600


2.  Google+ ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการใน iPad และ iPod Touch 

   
หน้าหลักกูเกิลพลัส                                                                      ฟีเจอร์หลักๆ คล้ายคลึงกับบนแอนดรอยด์ 


        หลังจากที่ก่อนหน้านี้กูเกิลพลัส (Google Plus) บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ก ตัวใหม่ล่าสุดในวงการ ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับผู้ใช้งานบนไอโฟน (iPhone) สมาร์ทโฟนยอดนิยมแล้ว ล่าสุดผู้พัฒนาได้เปิดตัวแอปพลิเคชันกูเกิลพลัส สำหรับการใช้งานบนแท็บเลตอย่างไอแพด (iPad) และเครื่องเล่นเพลงไอพอด ทัช (iPod Touch) พร้อมเพิ่มฟีเจอร์ใหม่แตกต่างจากบนแอนดรอยด์เล็กน้อย       
       เมื่อปลายเดือนที่แล้ว กูเกิลพลัส ถูกบรรจุลงแอปสโตร์แต่เป็นเฉพาะบนไอโฟนเท่านั้น รายงานล่าสุดทางแอปเปิลได้ทำการรับรองให้กูเกิลพลัส สามารถใช้งานได้บนไอแพด และไอพอด ทัช เป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้บนแพลตฟอร์มไอโอเอส ได้เพิ่มฟีเจอร์ในส่วนของบริการแชทแบบกลุ่ม หรือที่เรียกว่า Huddle เข้าไปอีกด้วย
      
       ฟีเจอร์ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาในบริการแชทแบบกลุ่ม นั่นคือ ผู้ใช้สามารถปฎิเสธการร้องขอการสนทนาจากผู้ใช้บางรายได้ แทนที่จะเป็นการบล็อคผู้ใช้รายใดรายหนึ่ง
      
       นอกจากนี้มีข้อสังเกตเพิ่มเติม นั่นคือ อินเตอร์เฟสกูเกิลพลัส บนไอแพด ไม่ได้ถูกออกแบบให้เหมาะสมกับแท็บเลตจากค่ายผลไม้โดยเฉพาะ แต่ทางผู้พัฒนาอย่างกูเกิลได้ใช้วิธีการเพิ่มขนาดของการแสดงผลเป็น 2 เท่าแทน ซึ่งเป็นที่น่าสนใจว่าการออกแบบแอปพลิเคชันกูเกิลพลัส ลงสู่ไอแพดดังกล่าว นั่นเป็นเพราะไอแพดเป็นคู่แข่งทางการค้าด้านแท็บเลตกับกูเกิลโดยตรง ทำให้การออกแบบตรงจุดนี้มีความแตกต่างกัน
      
       อย่างไรก็ตามแอปพลิเคชันกูเกิลพลัสนี้ยังไม่สามารถดาวน์โหลดได้ในแอปสโตร์ไทย


Credit by >>http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9540000099063

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น